เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่าน กูเกิ้ลได้ฉลองครบรอบอายุบริษัท 10 ปี ด้วยมูลค่าการตลาดถึง 150  พันล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 5.1 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 2.8 เท่าของงบประมาณแผ่นดินไทยในปีนี้  กูเกิ้ลทำอย่างไรเรื่องนี้น่าสนใจไม่น้อย
    
ผู้ก่อตั้งบริษัทกูเกิ้ลเดิมมาจากผลงานวิจัยระดับมหาบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์  ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา  เมื่อเดือนกันยายนปี 2541 โดยนักศึกษา 2 คน คนหนึ่งชื่อ ลาร์รี่ เพจ (Larry Page) จบจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และอีกคนหนึ่งชื่อ เซอร์จีย์ บริน (Sergey Brin) จบจากมหาวิทยาลัยแมรี่เลนด์ ทำงานวิจัยในหัวข้อ เครื่องค้นหาข้อมูลหรือ Search Engine ที่ใช้ชื่อว่า แบครับ หรือ BackRub ที่เขาใช้เวลาคิดประมาณ 2 ปี เพื่อที่จะสามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลและเนื้อหาในเว้ปให้ได้
    
สมัยนั้นการค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์ไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจ แต่ยังโชคดีที่ แอนดี้ เบคโทลชาม(Andy Bechtosheim) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทซันไมโครซิสเท็ม ได้ให้ทุน หนึ่งแสนดอลลาร์หรือประมาณ 4 ล้านบาทสมัยนั้น เพื่อตั้งบริษัทชื่อ กูเกิ้ล ซึ่งมาจากคำว่า googol ทางคณิตศาสตร์หมายถึง 1 ตามด้วย เลขศูนย์ 100 ตัว
    
แต่ต่อมาทั้งคู่ก็พยายามรวบรวมหาเงินทุนจากครอบครัว เพื่อน และนักลงทุนทั้งหลายจนได้เงินประมาณ 26 ล้านดอลล่าร์หรือประมาณ 1,000 ล้านบาทในสมัยนั้นและสามารถจ่ายคืนในเวลาต่อมา

เดิมจากในห้องเล็ก ๆ ของเพจซึ่งมีคอมพิวเตอร์ 3 เครื่องเป็นเซิร์ฟเวอร์ฟาร์ม เพื่อทำเป็นเครื่องค้นหาข้อมูลที่สามารถทำงานได้ประมาณ 10,000 คำขอต่อวัน ปัจจุบันสามารถทำได้ถึง 1,500 ล้านคำขอต่อวัน และจากห้องเล็กมาเป็น กูเกิ้ลเพล็กซ์ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของกูเกิ้ลมีขนาด 140,000 ตารางเมตร  ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย และสำนักงานทั่วโลกอีกกว่า 30 ประเทศ
    
และเครื่องค้นหาข้อมูลหรือ Search Engine นี้ เชื่อว่าสามารถเข้าได้ถึง 40 พันล้านหน้าเว้ปไซด์ทั่วโลกซึ่งวิ่งบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์หลายแสนเครื่องซึ่งบรรจุศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมาจากทั่วทั้งโลกและกูเกิ้ลก็เริ่มต้นเข้าสู่ตลาดมือถือด้วยซอฟต์แวร์เปิด “แอนดรอยต์” อีกด้วย
    
ทั้งเพจและบริน ปัจจุบันอายุ 35 ปี แต่ละคนมีทรัพย์สินประมาณ 19 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 646,000 ล้านบาท ประธานกรรมการบริหารของบริษัทปัจจุบันชื่อ อีริค ชมิดท์ (Eric Schmidt) ปัจจุบันอายุ 53 ปี มีความมุ่งมั่น อย่างเดียวว่าจะทำยอดขายให้ได้ปีละ 100 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.4 ล้านล้านบาท ซึ่งปีนี้สามารถทำเป้าทะลุยอด 20 พันล้านดอลลาร์หรือ 680,000 ล้านบาทได้แล้ว
    
แต่ก็เจออุปสรรคไม่น้อยกับการเจริญเติบโต เพราะต้องระวังเรื่องกฎหมายการต่อต้านการผูกขาดทางธุรกิจของสหรัฐ  และที่แน่ ๆ คือคู่แข่งอย่างไมโครซอฟต์เจ้ายักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก มีอายุ 33 ปี  ซึ่งมีมูลค่าการตลาดถึง 228 พันล้านดอลลาร์หรือ 7.75 ล้านล้านบาท และมียอดขายปีนี้เกิน 50 พันล้านดอลลาร์หรือ 1.7 ล้านล้านบาท คงจะไม่อยู่เฉย ๆ ในตลาดไอทีแน่ ๆ