ในช่วงเวลาไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานั้น ผู้คนนิยมเดินทางโดยสารผ่านเครื่องบินมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคิดว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกกว่า รวดเร็ว และทันสมัย จนมองว่าการเดินทางโดยรถไฟนั้นเป็นเรื่องของอดีต แต่เรากลับไม่คิดเช่นนั้นนะครับ เพราะการเดินทางโดยรถไฟนั้น คือการเดินทางที่แฝงไปด้วยความสวยงามไปในตัวอย่างแท้จริง ทุกครั้งที่เราเดินทางโดยรถไฟ เราเหมือนกับได้บุกเบิกผ่านเส้นทางนั้นๆ พบกับความงามของธรรมชาติอันรายรอบ โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟที่เราเอามาฝากกันในวันนี้ครับ จากขุนเขาอันยิ่งใหญ่ สู่ท้องทะเลอันสุดลูกหูลูกตา และป่าไม้ที่ใบไม้ต่างผลัดเปลี่ยนสีไปตามกาลเวลา นี่คือ 4 เส้นทางรถไฟอันน่าทึ่งในทวีปอเมริกาเหนือ ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ที่มีโอกาสบินลัดฟ้าไปอเมริกาเหนือได้ลองไปสัมผัสดูสักครั้งในชีวิต เรามาดูกันเลยครับว่ามีเส้นทางอะไรบ้าง
1. เส้นทางรถไฟ Amtrak Cascades เดินทางจาก Eugene, Oregon ไปยัง Vancouver, British Columbia
หากคุณกำลังมองหาเส้นทางรถไฟที่มีวิวให้ชมหลากหลายตลอดเส้นทาง และการบริการที่ยอดเยี่ยม นี่คือเส้นทางรถไฟที่คุณตามหาครับ กับ Amtrak Cascades เดินทางจาก Oregon ไปยัง Vancouver การเดินทางของคุณจะผ่านเมืองชายฝั่งกับท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เรื่อยไปเจอขุนเขาอย่าง ภูเขา Rainer และ ภูเขา Baker ต่อไปจนถึงป่าดิบชื้น ทุ่งหญ้า ฟาร์มเกษตรกรรมของชาวบ้านท้องถิ่น หากคุณขึ้นรถไฟขบวนนี้ อย่าลืมพกกล้องส่องทางไกลมาด้วยนะครับ เพราะตลอดทาง คุณจะสามารถส่องชีวิตสัตว์ป่าไปตามทางอีกด้วย ตั้งแต่ปลาวาฬที่กำลังพ่นน้ำ แมวน้ำที่นอนเล่นอยู่ริมฝั่ง นกอินทรีย์ที่บินโฉบหาอาหารอยู่เหนือท้องทะเล สิ่งเหล่านี้จะทำให้การนั่งรถไฟของคุณที่ยาวนานถึง 11.5 ชั่วโมง กลายเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจสุดๆ เลยล่ะครับ นี่ยังไม่รวม WiFi ฟรีตลอดการเดินทาง และอาหารชั้นเยี่ยมที่บริการบนรถไฟอีกด้วย แต่ใครจะไปต้องการเล่นอินเทอร์เน็ต ถ้ามีวิวสวยๆ แบบนี้ให้ชมถูกมั้ยล่ะครับ!
2. เส้นทางรถไฟ California Zephyr เดินทางจาก Chicago ไปยัง Emeryville, California
หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์การนั่งรถไฟข้าม 7 มลรัฐราวกับย้อนอดีตไปกับผู้ที่บุกเบิกเส้นทางในสหรัฐจากตอนกลางสู่ชายฝั่งตะวันตก นี่คือเส้นทางที่คุณกำลังหาอยู่ครับ กว่า 4 วันเต็มๆ ในการนั่งรถไฟ เส้นทางรถไฟสายนี้นำพาคุณจากชิคาโก้ สู่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ผ่านความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมากมายตั้งแต่เทือกเขา Sierra Nevada, อุโมงค์ Moffat, แม่น้ำ Truckee, ทะเลสาบ Donner, อ่าว San Pablo และช่องแคบ Carquinez ทั้งหมดนี้พร้อมตู้นอน และอาหารครบทุกมื้อสนนราคาอยู่ที่ราว 250 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9,000 บาทเท่านั้น แต่ถ้าคุณกลัวว่าการเดินทางนานๆ หลายวันเช่นนี้ จะมีจุดให้ลงพักบ้างหรือไม่ ก็ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะในระหว่างทางจะมีจุดแวะจอดให้คุณได้ลงไปยืดเส้น ยืดสาย หาของกินอร่อยๆ ตามเมืองต่างๆ อย่างแน่นอน เรียกได้ว่า เป็นอีกเส้นทางที่ท้าทาย และรอให้คุณได้สัมผัสธรรมชาติหลากหลายรูปแบบจริงๆ ครับ
3. เส้นทางรถไฟ Great Smoky Mountains เดินทางจาก Bryson City, NC ไปยัง Nantahala Gorge
ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคม เส้นทางรถไฟ Great Smoky Mountains Railroad จะเปิดเดินทางจาก Bryson City ไปยังสุดขอบของมลรัฐ North Carolina อย่าง Nantahala Gorge ตลอดเส้นทาง 44 ไมล์และการเดินทางร่วม 4 ชั่วโมงครึ่งนั้น ผู้โดยสารทุกคนจะถูกพาไปสู่ความเป็นชนบทของสหรัฐฯ กับธรรมชาติที่สวยงามอย่าง แม่น้ำ Tennessee, แม่น้ำ Nantahala, สะพาน Fontana Trestle ที่พาคุณข้าม Fonatana Lake สู่จุดหมายปลายทางอย่าง Nantahala Gorge ที่มีธรรมชาติอันสวยงามรอคุณอยู่ ทั้งหมดทั้งมวลนี้คุณจะเดินทางไปพร้อมบทเพลงสไตล์คันทรี่บลูกราส ที่จะช่วยทำให้บรรยากาศทั้งหมดเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ และที่สำคัญนะครับ หากคุณเลือกช่วงเวลาได้พอดิบพอดีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก่อนเข้าสู่ฤดูหนาวนั้น ตลอดเส้นทางที่คุณเดินทาง คุณจะพบกับใบไม้ที่พากันผัดเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลือง ส้ม และแดงตลอดเส้นทาง สวยงามมากๆ เลยทีเดียวครับ
4. เส้นทางรถไฟ Durango Silverton และ Narrow Gauge เดินทางจาก Durango ไปยัง Silverton, Colorado
เส้นทางรถไฟนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเส้นทางรถไฟชมวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติโดยเฉพาะครับ 45 ไมล์จากเมือง Durango ไปยัง Silverton มลรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา จะนำพาคุณย้อนอดีตสู่ยุคบุกเบิกในสหรัฐฯ ผ่านรถไฟไอน้ำโบราณจากยุค 1880 ที่ยังสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี ผ่านป่าไม้ ลำธาร และขุนเขาที่บนยอดเขายังเห็นหิมะที่ปกคลุมชัดเจน ภาพเหล่านี้ คือภาพที่จะทำให้คุณรู้สึกคุ้มค่าที่ได้เข้าใจว่า เมื่อครั้งหนึ่งในอดีต สหรัฐฯ ก่อนที่จะมารุ่งเรืองเหมือนในทุกๆ วันนี้เป็นอย่างไร เอาเป็นว่า หากเพื่อนๆ มีตั๋วเครื่องบินวางแผนไปเที่ยวสหรัฐฯ และอยากย้อนอดีต พร้อมชมธรรมชาติไปในตัว ก็ลองหาตั๋วรถไฟเส้นทางนี้ ซึ่งมีหลากหลายเกรดให้เลือกดูนะครับ รับรองจะเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมอย่างแน่นอน
สุดท้ายนี้ ก็เหมือนกับคำพูดนึงครับที่ว่า บางครั้งช่วงเวลาที่เราเดินทาง ก็มีความสุขมากกว่าการไปถึงจุดหมายปลายทางด้วยซ้ำ และการเดินทางด้วยรถไฟผ่านเส้นทางรถไฟเหล่านี้ ก็พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีครับว่า แม้การเดินทางจะใช้เวลานาน บางทีนานหลายวัน แต่ถ้าข้างทางนั้น สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ชีวิตผู้คน และธรรมชาติอันสวยงามได้เป็นอย่างดี บางครั้งก็คุ้มค่าที่จะใช้เวลาไปกับมันนะครับ เอาเป็นว่า หากเพื่อนๆ เกิดแรงบันดาลใจที่จะลุกขึ้นออกเดินทางไปตามเส้นทางรถไฟเหล่านี้ วิธีการง่ายๆ ที่ช่วยเพื่อนๆ ประหยัดเวลามากขึ้นก็คือเปรียบเทียบราคาที่พักและตั๋วเครื่องบินผ่านทางเอ็กซ์พีเดีย (Expedia) ครับ
