ผลกระทบของ Beauty Standard ที่ใหญ่ที่สุดเลยคือการทำลายความมั่นใจของใครสักคน กังวลและไม่เชื่อมั่นในตนเอง เกิดการเปรียบเทียบและกดตัวเองว่าตัวเองสวยไม่พอ ผลกระทบตามมาจากการเปรียบเทียบคือ การบูลลี อย่างที่คนฝั่งเอเชียมักชอบคนขาวและเหยียดคนผิวแทน ผิวเข้ม คนฝรั่งเหยียดคนตาตี่ ในยุคสมัยหนึ่งทางทวีปยุโรปนิยมคนขาวมาก หากใครขาวถือว่าเป็นลูกขุนน้ำขุนนาง ไม่ต้องทำงานลำบาก แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไปคนฝรั่งมักชอบคนนผิวแทนมากขึ้น และมองว่าคนผิวขาวดูป่วย ในส่วนนี้แพรไม่ต้องการเกิดดราม่าเปรียบเทียบหรือบูลลี่กันใดๆทั้งสิ้น แต่แพรต้องการยกตัวอย่างว่าการสร้าง Beauty Standard ทำให้เกิดการเปรียลบเทียบและการเหยียดส่งผลให้เกิดความทุกข์กับใครหลายคน แพรจึงจะสื่อว่าเราควรทุบ Beauty Standard ทิ้ง ลองคิดดูนะคะคุณไม่ต้องตื่นมาและน้อยใจในสีผิว รูปร่าง ทรงผมของตนเอง แค่คุณไม่ต้องคิดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นคุณจะมีความสุขมากแค่ไหน

ความงามที่แตกต่าง ในปัจจุบัน Beauty Standard ค่อยๆถูกลบทิ้งลงไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะมีผมสีอะไร เส้นผมแบบไหน สีผิวแทนหรือขาว ตลอดจนตั้งแต่หุ่น plus size ถึงผอมบางคุณสามารถมั่นใจในความงามของตนเองได้ 

ตัวอย่างแรก winnie harlow นางฟ้าจากเวที Victoria Secret ผู้มีความสามารถและประสบการณ์ในการเดินแบบมานับไม่ถ้วน เป็นป่วยเป็นโรคผิวด่างขาว ทำให้เห็นว่าผิวกายของเธอนั้นเต็มไปด้วยผิวสีแทนธรรมชาติ แต่งเติมด้วยผิวขาวที่เกิดจากความผิดปกติของยีนส์ แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคในการเดินตามความฝันของเธอ เธอมีความสามารถทำให้เวทีที่เธอไปเดินมีสีสันมากขึ้น เธอกลับมองว่านี่คือเด่นของเธอ ในตอนเด็กๆเธอไม่ได้มีชีวิตสวยหรู เธอถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามมาตั้งแต่เด็ก เธอเคยถูกเพื่อนเรียกว่าม้าลายนั่นสร้างความปวดให้กับเด็กสาวไม่น้อย แต่ด้วยแรงบรรดาลใจและความฝัน ทำให้เธอผ่านพ้นความเจ็บปวดเหล่านั้นและก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบชื่อดังระดับโลกได้

ไม่ว่าคุณจะผอม อ้วน ดำ ขาว สูงหรือเตี้ย ทุกลักษณะคือความแตกต่างของความงาม อย่าคิดกดความมั่นใจของตนเองด้วย Beauty Standard คนเราสวยได้โดยไม่จำเป็นให้ใครมาตัดสิน ไม่ต้องใช้มาตราฐานความงามเป็นตัวกำหนดบอกว่าใครสวยกว่าใคร ทุกความงามมีคุณค่าเท่ากัน ดังนั้นจงเชื่อมั่นในความงามของตัวเอง จงเชื่อในความงามที่แตกต่าง แค่คุณมีความมั่นใจคุณก็สวยจากภายในได้